ผลสอบ PISA เด็กไทย

ผลสอบ PISA เด็กไทย

คะแนนสอบ PISA ไทย ตกต่ำลงที่สุดในรอบ 20 ปี ตกต่ำในรอบ 20 ปี ด้านกระทรวงศึกษาธิการ ตั้งคณะทำงานขับเคลื่อนแก้ปัญหา นี่เป็นเรื่องใหญ่ในวงการศึกษาเมื่อการวัดผลความฉลาดรู้ของเด็กไทย ผ่านการสอบ PISA ปี 2022 ตกต่ำลงที่สุดในรอบ 20 ปี และมีคะแนนต่ำกว่าหลายประเทศในอาเซียน สำหรับโปรแกรมประเมินสมรรถนะนักเรียนมาตรฐานสากล (Programme for International Student Assessment หรือ PISA) 

ริเริ่มโดยองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (Organisation for Economic Co-operation and Development หรือ OECD) เพื่อประเมินนักเรียนอายุ 15 ปี ในประเทศที่เข้าร่วม ปัจจุบันนี้มีประเทศจากทั่วโลกเข้าร่วมการสอบ 81 ประเทศ รวมนักเรียนกว่า 700,000 คน และไทยเป็น 1 ในผู้เข้าร่วมตั้งแต่ปี พ.ศ.2543

ผลสอบ PISA เด็กไทย

สำหรับข้อสอบจะวัดความฉลาดรู้ คือ มีความรู้แล้ว คิดวิเคราะห์ ปรับใช้กับโลกที่เปลี่ยนแปลงได้หรือไม่ ใน 3 ด้าน คือ ความฉลาดรู้ด้านการอ่าน ความฉลาดรู้ด้านคณิตศาสตร์ และความฉลาดรู้ด้านวิทยาศาสตร์ ตัวอย่างข้อสอบวิทยาศาสตร์ข้อหนึ่ง โจทย์ระบุถึงสถานการณ์ของสูตินารีแพทย์ ในกรุงเวียนนา พ.ศ.2389 มีคนไข้หญิงที่หลังคลอดป่วยติดเชื้อเป็นไข้ใน 2 หอผู้ป่วย ในจำนวนที่แตกต่างกัน 

สูตินรีแพทย์บันทึกว่า มีโรคระบาดที่มองไม่เห็นฆ่าแม่ ๆ เหล่านี้ หรือเกี่ยวกับปัจจัยสภาพอากาศ หรือแผ่นดินไหว หรือไม่อย่างไร คำถามแรกถามว่า อะไรคือ เหตุผลว่า ไข้หลังคลอดไม่น่าจะเกิดจากแผ่นดินไหว หากตอบโดยยึดตามกราฟจำนวนผู้ป่วยที่แตกต่างกัน ไม่เกี่ยวกับแผ่นดินไหว จะได้คะแนนเต็ม แต่หากตอบว่า หากแผ่นดินไหวมีผล ผู้หญิงนอกโรงพยาบาลต้องเป็นไข้ด้วย จะได้คะแนนลดหลั่นลงมา

จากนั้นสถานการณ์ที่ 2 ระบุว่า ในการผ่าศพคนไข้ในกลุ่มนี้มีนักศึกษาแพทย์ ที่ร่วมในหอผู้ป่วยไม่สนใจทำความสะอาดร่างกาย หลังผ่าศพและมีแพทย์ที่ร่วมผ่าศพทำมีดบาดตัวเองแล้วเสียชีวิต โดยมีอาการเหมือนกับแม่ ๆ เหล่านั้นที่ตายไป มีคำถามว่า การตายของแม่ ๆ กับพฤติกรรมนักศึกษาแพทย์ เกี่ยวข้องกันหรือไม่ หากตอบว่า เกี่ยวกันได้คะแนนไป และคำถามสุดท้ายเมื่อการทำความสะอาดผ้าปูเตียง ด้วยอุณหภูมิสูงช่วยลดการติดเชื้อโรคได้เป็นเพราะอะไร หากตอบเกี่ยวกับเชื้อแบคทีเรีย การใช้ความร้อนกำจัด จุลชีพ ไวรัส จะได้คะแนนเต็ม แต่หากตอบว่าเป็นการฆ่าเชื้อโรคจะไม่ได้คะแนน ซึ่งในชุดคำถามชีววิทยานี้ญี่ปุ่นได้คะแนนสูงที่สุด

อดีตนักเรียนที่เคยเข้าสอบในปี พ.ศ.2558 เปิดเผยว่า ข้อมูลในข้อสอบไม่เคยมีในห้องเรียน ขณะที่หลายคนแม้จะไม่เคยผ่านสนามสอบ PISA แต่เห็นว่าการเรียนแบบท่องจำไม่ตอบโจทย์โลกในยุคปัจจุบันที่มุ่งเป้าไปที่ทักษะการตลาด การเทรดหุ้น ดิจิทัล และ AI

ข้อสอบของ PISA ถูกนำไปใช้เป็นเกณฑ์วัดประเมินทรัพยากรในประเทศต่าง ๆ เช่น World economic forum ทำให้ตลอดการสอบ 20 กว่าปี มีประเทศใหม่ ๆ เข้าร่วมมากขึ้น แต่สำหรับไทย เกือบจะยกเลิก หลังจากผลการสอบในปี 2558 คะแนนของไทยแย่ลง ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงศึกษาธิการ เคยถึงกับขู่ว่าจะไม่เข้าร่วมทดสอบหากผู้จัดสอบไม่อนุญาตให้ตรวจสอบความถูกต้องของการแปลภาษา และเรียกร้องไม่ให้เอาผลสอบของโรงเรียนขนาดเล็กมาคำนวณ

ผลสอบ PISA เด็กไทย

สำหรับคะแนนสอบในปี 2565 ในกลุ่ม 10 ประเทศที่ได้คะแนนมากที่สุด และมากกว่าค่าเฉลี่ย OECD คือ สิงคโปร์ มาเก๊า จีนไทเป ฮ่องกง ญี่ปุ่น และไทยไม่ได้แพ้แค่สิงคโปร์ แต่ในกลุ่มอาเซียน ไทยยังตามหลังเวียดนาม บรูไน และมาเลเซีย อ.วิริยะ ฤาชัยพาณิชย์ นักวิชาการด้านการศึกษา กล่าวว่า 20 กว่าปีที่แล้วไม่มีใครรู้จักฟินแลนด์ หลังจากมีการสอบ PISA ผ่านไปครั้ง 1-2 ครั้ง จึงมีคนหันไปดูว่าประเทศนี้สอนอย่างไร ทำไมเด็กจึงทำข้อสอบได้ มองว่า เด็กเขาไม่ได้เรียนเยอะ ไม่มีเกรดเฉลี่ย 

การศึกษาขั้นพื้นฐานคือการให้เด็กเล่น ให้เด็กเคารพตัวเอง ให้เด็กได้คิด ฉะนั้นจึงมีการปฎิรูปการศึกษาเมื่อ 20 ปี ก่อนในทั่วโลกร่วมถึงประเทศไทยด้วย

ศธ.ตั้ง คกก.แก้ปัญหาผลสอบ PISA เด็กไทยต่ำ

นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รมช.ศึกษาธิการ กล่าวถึงผลการสอบ PISA ประจำปี 2022 ว่าหลายประเทศคะแนนลดลง โดยเฉพาะประเทศไทยที่ทั้ง 3 ด้าน คือ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และการอ่าน ผลคะแนนลดลง และลดลงมากที่สุดในรอบ 20 ปี

กระทรวงศึกษาธิการ ให้ความสำคัญโดยได้ตั้งคณะกรรมการมาแก้ปัญหานี้ โดยมี รมว.ศธ.เป็นประธาน และจะประชุมร่วมกันหลังช่วงปีใหม่ ในการติดตามและกำหนดนโยบายเชิงรุก เพื่อให้การสอบ PIZA ครั้งถัดไป คะแนนการสอบจะต้องไม่แย่ไปกว่าเดิม รมช.ศึกษาธิการ ยอมรับว่า 2 ปัจจัยหลักที่อาจทำให้ผลคะแนนลดลง คือ สถานการณ์โควิด-19 ที่ทำให้นักเรียนต้องเรียนออนไลน์ และปัจจัยความเหลื่อมล้ำการเข้าถึงการศึกษา ขณะที่นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าฯ กทม. 

กล่าวว่า จะช่วยเร่งแผนด้านการศึกษาของนักเรียนชั้นประถมศึกษา ให้เกิดระบบเรียนรู้มากกว่าการท่องจำ เพื่อให้มีพื้นฐานเมื่อต้องเข้าเรียนช่วงวัยมัธยมศึกษา ซึ่งโรงเรียนสังกัด กทม. ทั้ง 437 แห่ง ส่วนใหญ่ก็เป็นเด็กวัยประถม และอาจต้องให้เด็กลองฝึกทำข้อสอบ PISA ในปีที่ผ่านมาด้วย เพื่อให้คุ้นเคยแนวข้อสอบเป็นพื้นฐาน